วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ในห้วงของความคิด จากความทรงจำที่สวยงาม

วันนี้อยู่ดีๆ ก็เกิดนึกถึงใครบางคนขึ้นมา เป็นคนที่เคยยิ้ม หัวเราะ ร้องไห้ ผ่านขมผ่านหวานด้วยกันมานานมาก แต่วันนี้ทางของเรามันไม่สามารถมาบรรจบกันได้จริง เค้าเหมือนภาพที่ เลือนหายไปในความทรงจำของชั้นมาตั้งนานแล้วนะ แต่ก็ไม่รู้ทำไมวันนี้ภาพเหล่านั้นมันกลับมาอีกครั้งหนึ่ง.....

อย่างที่ใครหลาย ๆ คนเคยพูดไว้นั่นแหล่ะ .... "ความรู้สึกของมนุษย์เป็นเรื่องที่เข้าใจยากที่สุด"...มันเหมือนกับว่า ตัวเราพยายามที่จะเข้าใจตัวเองให้มากที่สุด หรืออาจจะเป็นการหลอกตัวเองมากกว่าว่าเราเข้าใจและรู้จักตัวเองมากที่สุด  ข้อนี้ชั้นก็ไม่สามารถสรุปได้เช่นกัน..แต่อย่างหนึ่งที่ชั้นบอกได้จากเรื่องราวของตัวชั้นเอง คือ ความรู้สึกของตัวชั้นเองมันดูเหมือนว่าจะไม่เป็นใจให้ชั้นเข้าใจมันเลยสักนิดเดียว...

เรื่องราวของเราสองคนมันผ่านมานานมากแล้ว นานเสียจนไม่น่าที่จะจำมันได้อีกต่อไป หลายมุมของความรู้สึก ทั้งสุข ทุกข์ ทีเคยผ่านมาด้วยกันมันถูกพับเก็บและซ่อนไว้ลึกสุดของห้วงความรู้สึก  ยิ่งกว่าเสื้อผ้าเก่าในสมัยวัยเด็กที่เราเคยใส่เล่นและเราก็โปรดปราณมันมากที่สุด  แต่ถึงอย่างไรวันนี้เราก็โตเกินกว่าที่จะกลับไปใส่เสื้อผ้าชิ้นน้ันอีกครั้ง สิ่งที่เราเลือกทำ คือ พับมันเก็บไว้ในซอกหลืบหนึ่งของกล่องเก็บเสื้อผ้าเก่า ที่อาจจะไม่มีวันถูกเปิดขึ้นมาใช้อีกครั้งเลยก็ได้ แทนที่เราจะโยนมันทิ้งไป หรือส่งต่อให้กับคนอื่น นั่นเพียงเพราะเรา...รู้สึกว่า เสื้อผ้าชิ้นนั้นมันถูกเติมเต็มไปด้วยความงดงามของความทรงจำช่วงหนึ่งของชีวิตนั่นเอง

มีใครบางคนพยายามจะบอกชั้นว่า..."หากชั้นรู้สึกกับอดีตเหล่านั้น แสดงว่าชั้นกำลังยึดติด และจมกับภาพในอดีต มันจะทำให้ชั้นเป็นทุกข์เพราะการที่ชั้นไม่ยอมเอาใจมาไว้กับปัจจุบัน" ... ชั้นเห็นด้วยกับคำพูดนี้เป็นที่สุด ไม่ได้คิดโต้แย้งในเชิงเเนวคิดเลยแม้แต่น้อย  หากแต่ในกรณีที่ความรู้สึกเเบบนี้เกิดขึ้นกับตัวชั้นเอง ชั้นก็ไม่แน่ใจว่านี่เรียกว่าทุกข์หรือไม่? ชั้นรู้สึกอยู่กับภาพปัจจุบัน ชั้นอยู่ ชั้นคิด ชั้นเห็น ชั้นเข้าใจและชั้นยอมรับในความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกับตัวชั้นเองในตอนนี้ โดยไม่ทันได้รู้สึกว่าภาพความทรงจำเก่า ๆ เหล่านั้นที่ผุดขึ้นมา มันมาทำให้ชั้นทุกข์

ฟังดูแปลกและน่างุนงงไม่น้อย...แต่นั่นแหล่ะ ก็คือชีวิต ก็คือความรู้สึกของมนุษย์นั่นแหล่ะ...มันไม่สามารถหาสูตรใดที่ตายตัวว่า เราต้องรู้สึกเช่นนั้น เช่นนี้ หากแต่มันผันแปรไปตามจิต และสถานการณ์รอบข้างได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับว่าเราจะรับรู้ ยอมรับและปล่อยความรู้สึกนั่นไปได้เร็วขนาดไหนต่างหาก

ชั้นยอมรับว่าคิดถึงภาพวันวานเหล่านั้น แต่ชั้นไม่ทุกข์กับภาพเหล่านั้น ชั้นแค่ยิ้มกับมัน ร้องไห้กับมันและปล่อยให้มันเล่นตลกไปกับความรู้สึกของชั้นบ้างแค่สักเสี้ยวนาที เพราะถึงอย่างไรชั้นก็ยังรู้สึกว่า มันเป็นสิ่งสวยงาม มันเป็นความรู้สึกที่หาซื้อไม่ได้ตามท้องตลาดเหมือนผักปลา และมันก็ไม่สามารถสร้างหรือเกิดขึ้นได้เพียวแค่ชั่วนาที หากแต่มันได้ผ่านการเพาะบ่มในใจเรามานานแสนนาน นานพอที่จะตกตะกอนอยู่ในความทรงจำ เพราะฉะนั้นการที่เราจะโหยหา หรือชื่นชมกับภาพอดีตเหล่านั้นบ้างก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกหรือผิดแต่อย่างไร หากเรายังเป็นเพียงมนุษยปุถุชน ที่ยังคงวนเวียนอยู่ในวัฏฏะเเห่งรัก โลภ โกรธและหลง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น